สูบบุหรี่ไฟฟ้า ผสมกับสารกัญชา THC ความอันตรายที่ผู้สูบบุหรี่ไฟฟ้าต้องรู้ บุหรี่ไฟฟ้าเป็นสิ่งที่คนสูบบุหรี่รู้จักกันมา 16 ปีแล้ว โดยในอดีตมักไม่พบผลข้างเคียงที่น่ากังวลมากนักในระยะสั้น แต่ความอันตรายของการ สูบบุหรี่ไฟฟ้า ผสมกับสารกัญชา อาจจะปรากฎผลข้างเคียงร้ายๆในระยะยาว ที่คงต้องรอเวลาอีก 20 ปีเพื่อค้นพบ ปกติน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้าจะประกอบด้วยสารนิโคติน (nicotine) และสารอื่นๆ เช่น Propylene glycol, glycerin และรสผสมต่างๆ
ในอดีตไม่เคยมีรายงานมาก่อนว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้เกิดปอดอักเสบเฉียบพลัน นี่เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ถึงร้อยละ 90 ในผู้ที่สูบกัญชา THC ภายใน 3 เดือน มากมาย โดยเฉพาะในประเทศสหรัฐอเมริกา มีผู้ป่วยจำนวนมากถึง 2290 คนและสูญเสียชีวิตถึง 47 คน โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ใหญ่วัยหนุ่มสาว วัยรุ่น และผู้ใหญ่วัยกลางคน
อาการที่พบหลังสูบกัญชา THC
อาการหลังสูบกัญชา THC ขึ้นโดยรวมรวมถึงปัญหาการหายใจ อาการหลังสูบกัญชา THC อาจจะเกิดขึ้นภายในเวลาไม่นานหลังสูบ และอาจต้องรับการรักษาในโรงพยาบาล บางคนจะต้องเข้าห้องไอซียู และบางคนมีสภาวะหายใจล้มเหลวจนต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ มีผู้ต้องใส่เครื่องหัวใจ-ปอดเทียม และผู้หนึ่งต้องผ่าตัดเปลี่ยนปอดทั้ง 2 ข้าง
อาการอื่นๆ ที่เกิดขึ้นได้รวมถึงอาการทางปอด เหนื่อย ไอ เจ็บหน้าอก มีไข้ อ่อนเพลีย และอาการทางเดินอาหาร เช่น คลื่นไส้อาเจียน ท้องเสีย และปวดท้อง การตรวจร่างกายพบว่ามีไข้ หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว และระดับออกซิเจนในเลือดต่ำ ภาพเอกเซเรย์ปอดแสดงผลผิดปกติที่มีฝ้าขาว และการสแกนปอดด้วยคอมพิวเตอร์ก็พบว่ามีฝ้าขาวทั้งสองข้าง ส่องกล้องเข้าไปในหลอดลมเอาน้ำล้างปอด และตรวจพิเศษพบว่ามีน้ำมันวิตามินอี acetate ซึ่งเป็นสารสำคัญในการสร้างน้ำยาบุหรี่ไฟฟ้า
นั่นแสดงว่าสาเหตุของอาการร้ายแรงนี้เกิดจากการหายใจน้ำมันวิตามิน E acetate เข้าไปในปอด วิตามิน E นี้สามารถใช้ได้โดยปกติเมื่อทาผิวหนัง แต่ถ้าหายใจน้ำมันวิตามิน E เข้าไปในปอด วิตามิน E acetate จะเปลี่ยนเป็นรูปเหนียวหนืดเหมือนน้ำผึ้ง และเกาะติดในถุงลม ทำให้ปอดไม่สามารถดึงออกซิเจนจากอากาศและปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากร่างกายได้ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักที่ระบบหายใจล้มเหลวและสามารถทำให้เสียชีวิตได้ในเวลาอันสั้น
ถึงแม้จะยังไม่มีรายงานคนไทยที่ป่วยด้วยโรคนี้ แต่ขอเตือนคนไทยทุกคนให้ระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการสูบสารกัญชา THC ด้วยบุหรี่ไฟฟ้าอย่างเด็ดขาด เพื่อปกป้องสุขภาพและความปลอดภัยของตนเองและคนรอบข้างไว้เสมอ การรักษาแนะนำให้ใช้สเตียรอยด์ตั้งแต่แรก จะช่วยให้ผู้ป่วยดีขึ้นได้และลดความเสี่ยงของการเป็นโรคนี้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาค
ผลของงานวิจัยบุหรี่ไฟฟ้าผสมกัญชาที่น่าสนใจ
เมื่อพูดถึงเรื่องการสูบบุหรี่ไฟฟ้าและกัญชาในวัยเยาวชนอายุ 12-17 ปี เราพบว่ามีงานวิจัยจากสหรัฐอเมริกาที่ได้ศึกษาความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองสิ่งนี้ โดยใช้ข้อมูลสำรวจยาสูบกับสุขภาพของประชากรสหรัฐที่เก็บต่อเนื่องระยะยาวตั้งแต่ปี 2556 ถึงปี 2561 โดยจำนวนตัวอย่างในการศึกษามีทั้งหมด 19,503 ราย เพื่อศึกษาแนวโน้มการเริ่มสูบกัญชาของเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าและที่ไม่สูบบุหรี่ไฟฟ้า และนำมาเปรียบเทียบระหว่างรัฐที่เปิดเสรีกัญชากับรัฐที่ยังไม่ได้เปิดเสรีกัญชา
ผลการศึกษาพบว่า เยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้ามีแนวโน้มที่จะสูบกัญชามากขึ้น โดยเฉพาะในรัฐที่เปิดเสรีกัญชาเพื่อใช้สันทนาการ อัตราการสูบกัญชาในกลุ่มนี้เพิ่มขึ้นถึง 18 เท่า ส่วนในรัฐที่ยังไม่อนุญาตให้ใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ อัตราการสูบกัญชาในกลุ่มเยาวชนที่สูบบุหรี่ไฟฟ้าเพิ่มขึ้น 5 เท่า
บทสรุป
การใช้บุหรี่ไฟฟ้า ร่วมกับกัญชา มีความเสี่ยงมากถึงขั้นเสียชีวิต โดยเฉพาะจากโรคปอดอักเสบเฉียบพลันหรือที่เรียกว่า EVALI (E-cigarette, or vaping, product use-associated lung injury) ที่ระบาดในกลุ่มวัยรุ่นอเมริกันในปี 2562-2563 พบผู้ป่วยทั้งสิ้น 2,807 ราย และมีผู้เสียชีวิต 68 ราย ซึ่งจากข้อมูลของผู้ป่วยพบว่า 82% ใช้สารสกัดกัญชาหรือ tetrahydrocannabinol (THC) ในการสูบบุหรี่ไฟฟ้า ดังนั้น การเฝ้าระวังและป้องกันการใช้บุหรี่ไฟฟ้าและกัญชาในวัยเยาวชนเป็นสิ่งสำคัญ
การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็มีความเสี่ยงแล้ว ไม่เพียงแต่จากนิโคตินที่มีความเสพติดสูง แต่ยังจากสารเคมีอันตรายหลายชนิดที่อาจทำลายสมองของเด็กและวัยรุ่น รวมถึงเสี่ยงต่อการเป็นโรคมะเร็งในอนาคต การผสมกัญชากับบุหรี่ไฟฟ้ายิ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงเพิ่มขึ้น ดังนั้น ข้อควรระวังนี้ควรถูกยึดมั่นและเผยแพร่อย่างแพร่หลาย เพื่อปกป้องสุขภาพและอนาคตของวัยเยาวชนให้เป็นอย่างดี
อยากมีตัวช่วยเลิกบุหรี่ที่มีคุณภาพทางทีมงานเรามีบุหรี่ไฟฟ้าหลากหลายแบรนด์มานำเสนอ ถ้าสนใจสอบถามรายละเอียดได้ที่ LINE ID: @313nxsxw
